วิธีเลือกซื้อผ้านวมโรงแรม แบบไหนเหมาะกับโรงแรมเรา

หลักการหรือวิธีเลือกซื้อผ้านวมโรงแรมนั้นไม่แตกต่างกับ การเลือกผ้าปูที่นอน กล่าวคือ ต้องดูข้อมูล hotel customer segment และ กลุ่มโรงแรมของตัวเอง เช่น

กลุ่มโรงแรมประเภทบัดเจท budget hotel เนื้อผ้าที่ถูกนำมาใช้สำหรับผ้าปูที่นอนโรงแรมส่วนใหญ่จะเลือกใช้ผ้าที่คุ้มราคาเป็นหลัก ดังนั้นผ้าที่อยู่ในกลุ่มนี้จะเป็น ผ้าฝ้าย 100% 180 เส้นด้าย โดยผ้านวมนั้นจะไม่สนใจผ้าในกลุ่มของ TC และ CVC ด้วยเหตุผลในเรื่องของการถ่ายเทอากาศหรือความร้อน ใน ในกลุ่มนี้จะลายผ้านวมจะมีให้เลือกแบบเดียวคือแบบเรียบเท่านั้น

กลุ่มโรงแรมประเภทมิดสเกล midscale hotel กลุ่มนี้มักใช้ผ้าสเปคกลางๆ ซึ่งมักเลือก ผ้าฝ้าย 100% 210 เส้นด้าย หรือ ผ้าฝ้าย 100% 250 เส้นด้าย และผ้าย 100% 250 เส้นด้าย ลายริ้ว แน่นอนว่าถ้ากลุ่มนี้มีแขกเข้าพักที่โรงแรมเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมาก โดยส่วนใหญ่ลายริ้วค่อนข้างเป็นที่นิยมค่อนข้างมาก เพราะปกติผ้าในห้องพักมักมีแต่สีขาว ซึ่งทำให้การมีดีไซน์หรือลายย่อมทำให้เพิ่มมิติในการตกแต่งห้องพักมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

กลุ่มโรงแรมประเภทบูทีค boutique hotel เนื้อผ้าที่กลุ่มนี้เลือกใช้จะกว้างมากที่สุด เพราะบูทีคนั้นขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้าของตัวเองอีกด้วย โดยผ้ากลุ่มนี้จะสามารถเลือก ผ้าฝ้าย 100% 210 เส้นด้าย ผ้าฝ้าย 100% 250 เส้นด้าย ผ้าฝ้าย 100% 250 เส้นด้าย ลายริ้ว ผ้าฝ้าย 100% 300 เส้นด้าย และผ้าย 100% 300 เส้นด้าย ลายริ้วหรือดีไซน์ จะเห็นว่ากลุ่มนี้มีสเปคให้เลือกมากเลยทีเดียวซึ่งสิ่งที่ควรตัดสินใจก่อนคือเรื่องบัดเจทเพราะจะทำให้สโคปสเปคที่เลือกได้ จากนั้นค่อยตัดสินใจว่าจะใช้ลายเรียบ ลายริ้ว หรือดีไซน์กรณีเลือกเป็น 300 เส้นด้าย

กลุ่มโรงแรมประเภทลักซ์ชัวรี่ luxury hotel เนื้อผ้ากลุ่มนี้จะเลือกผ้าที่ดีที่สุดซึ่งผ้าที่ดีที่สุดสำหรับการเลือกผ้าปูที่นอนโรงแรมจะเป็น ผ้าฝ้าย 100% 300 เส้นด้าย และผ้าย 100% 300 เส้นด้าย ลายริ้วหรือดีไซน์ ระยะหลังมานี้โรงแรมในเครือ starwood และโรงแรมหรู 5 ดาวทั้งหลายเริ่มมีการทำดีไซน์ในรูปแบบที่ไม่เหมือนใครมากขึ้น หรือเลือกใช้ลายที่แตกต่างจากที่อื่นมากขึ้น ข้อดี คือมีความแตกต่างจากที่อื่น (อันนี้แล้วแต่ไอเดียลูกค้าเลยว่าจะมองว่าต่างหรือไม่ต่าง) ส่วนข้อเสียที่ชัดคือเวลาสั่งสินค้านั้นจะมีขั้นต่ำในการสั่งซื้อเพราะเป็นดีไซน์ที่พิเศษกว่าคนอื่นนั่นเอง

ขนาดผ้าที่ใช้นั้นไม่ใช่ขนาดที่ตายตัว แบบที่ทุกคนเข้าใจกันเช่น ใส้นวม 3.5 ฟุต ต้องใช้ผ้านวมขนาด 70”x90”x12” ใส้นวม 6 ฟุต ต้องใช้ผ้านวมขนาด 100”x90”x12” ซึ่งความจริงแล้วผ้าไซส์นี้ถูกคิดมาจากเตียง 3.5’ บวกกับความหนาเตียง 8” โดย การเผื่อผ้านวม มักเผื่อที่ความยาวประมาณ 15 เซนติเมตรต่อด้าน หรือ 30 เซนติเมตรฝั่งด้านกว้างเช่นเดียวกันกับผ้าปูที่นอนและอีก 15 เซนติเมตรฝั่งด้านยาวนั่นเองแต่การปูผ้านวมนั้นด้านยาวไม่ได้คลุมทั้งหมดจึงทำให้ต้องลดขนาดลงซึ่งขนาดที่เหมาะสำหรับเตียงยาว 6.5 ฟุต คือ 90” นั่นเอง อีกเคล็ดลับที่สำคัญ ควรคุยกับร้านให้ดีว่าขนาดที่แจ้งนั้นเป็นขนาดก่อนซักหรือหลังซัก supplier หลายๆเจ้าอาจทำขนาดก่อนซักมาส่ง ซึ่งทำให้ผ้าหดตัวหลังจากผ่านการซักซึ่งมากถึง 5% เลยทีเดียว

แอดมินได้ทำขนาดผ้านวมมาให้สำหรับขนาดเตียงต่างๆตามตารางข้างล่างนี้

อย่างไรก็ตามจะเห็นว่าขนาดของผ้านวมที่แอดมินบอกนั้นบางท่านอาจไม่เคยเห็นเพราะการต่างกันเพียงเล็กน้อยของผ้านวมนั้นอนุโลมได้ เพราะผ้านวมไม่จำเป็นต้องผูก บางโรงแรมใช้สอดเข้าใต้เตียง บางโรงแรมปล่อยชายออกทั้งหมดก็มี ดังนั้นขนาดที่มักเจอเลยกลายเป็นตัวเลขง่ายๆ หรือหากไม่มั่นใจก็สามารถปรึกษาเราก่อนได้

ตารางด้านบนเป็นตัวอย่างสำหรับเตียงตามขนาดที่ระบุซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถสั่งผ้าปูที่นอนโรงแรมได้ในขนาดที่ถูกต้อง ในทำนองเดียวกันลูกค้ายังจำเป็นต้องเลือกขนาดผ้านวมที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน และเหมาะสมกับเตียงที่โรงแรมมีและที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของขนาดหลังซัก ในทำนองเดียวกันหากไม่ได้ระบุขนาดเป็นหลังซัก เราควรทำการเผื่อขนาดที่มากขึ้นตอนสั่งซื้อ ซึ่งจะทำให้ผ้าที่ได้รับไม่หดจนมากเกินไป หรือหากลูกค้าไม่แน่ใจ ติดต่อเราเพื่อขอคำปรึกษาได้เลย

โดยการกำหนดพาร์นั้นขึ้นกับปัจจัยที่แตกต่างกันเช่น ประหยัดงบ กลุ่มลูกค้าพักแค่ ศ-อา เป็นหลัก แผนกซักรีดทำงานเร็ว ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดให้จำนวนพาร์ลดลงได้ อย่างไรก็ตามลูกค้าต้องคำนวณถึงการสั่งสินค้าในปริมาณที่พอดี ไม่มากและน้อยเกินไป เพราะหากมากเกินไปก็ไม่เกิดประโยชน์ และหากน้อยเกินไปนั้นก็ไม่เพียงพอ และเมื่อกลับมาสั่งเพิ่มเติม ราคาของสินค้าก็จะแพงขึ้นตามจำนวนที่สั่งน้อยลงอีกด้วย

ดังนั้นสิ่งสำคัญวิธีการเลือกซื้อผ้านวมโรงแรมคงหนีไม่พ้นจากบัดเจทของลูกค้า ประเภทโรงแรม และ customer segment นั่นเอง